‘ฮีโร่’ – พนง. ชนะเดิมพันหัวหน้า : ถ้า ตีกอล์ฟท่ายาก เข้า ได้เลิกงานก่อนทั้ง บ.

‘ฮีโร่’ – พนง. ชนะเดิมพันหัวหน้า : ถ้า ตีกอล์ฟท่ายาก เข้า ได้เลิกงานก่อนทั้ง บ.

สถานการณ์สร้างวีรบุรุษก็ว่าได้กับการที่พนักงานรายหนึ่งเอาชนะเดิมพัน ตีกอล์ฟท่ายาก ของเจ้านายไปได้ ทำให้ทั้งบริษัทได้กลับบ้านก่อนเวลา เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา ได้มีการนำเสนอของคลิปวิดีโอบน TikTok โดยผู้ใช้งาน @culinaryflaire ที่มีผู้ชมถึง 3.4 ล้านครั้งภายในเวลา 2 วัน ภายใต้คำบรรยายที่ว่า “หัวหน้าของเราได้พูดว่าถ้าพนักงานคนไหน สามารถทำให้ลูกกอล์ฟเข้าถ้วยได้  พวกเราทุกคนจะได้กลับบ้านไว”

โดยวิดีโอก็เป็นการแสดงให้เห็นถึง พนักงานคนหนึ่งที่ได้รับมอบหมายให้พิชิตโจทย์ 

ตีกอล์ฟท่ายาก นี้ : ตีลูกกอล์ฟให้เข้าถ้วยด้วยระยะทางที่ไกลเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในระหว่างที่ลูกกอล์ฟกำลังกลิ้งลงไป ความกดดันก็มากขึ้นตามไปด้วย จนในที่สุดลูกกอล์ฟก็ได้กลิ้งเข้าถ้วยพร้อมกับเสียงโห่ร้องดีใจ ทำให้ตรงตามที่วิดีโอนี้ขึ้นแคปชั่นเอาไว้ “มันเป็นวันศุกร์ และเขาก็คือฮีโร่” 

หลังจากที่คลิปดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปก็มีผู้แสดงความเห็นต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น “นี้คือวิธีในการเพิ่มกำลังใจในที่ทำงาน”, “ถือว่าเป็นวิธีการที่ประหยัดที่สุด และได้ผลที่สุดในการสร้างแรงกระตุ้นต่อพนักงาน เท่าที่เคยเห็นมา” เป็นต้น

จากสอบถามเพิ่มเติมกับ @culinaryflaire ก็พบว่านี้ไม่ใช่กิจกรรมครั้งแรกที่ได้รับความสนใจในโลกออนไลน์ โดยก่อนหน้านี้พวกเขาได้ทำการแกล้งเจ้านายและปล่อย TikTok กันไปแล้ว ซึ่งก็มีผู้รับชมกันไปแล้วถึง 1.6 ล้านครั้ง

ประชาชนสามารถรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเป็นระยะทางกว่า 500 กิโลเมตร ซึ่งสำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่าประชาชนในอัฟกานิสถาน ปากีสถาน อินเดีย สามารถสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ โดยประชาชนในกรุงคาบูลเมืองหลวงอัฟกานิสถาน และ อิสลามาบัด เมืองหลวงปากีสถานเองก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงสั่นสะเทือนเช่นกัน ขณะที่ทางการได้ร้องขอให้ทุกหน่วยงานรีบส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือประชาชนทันที และเพื่อที่จะเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุโศกนาฎกรรมซึ่งเป็นผลพวงจาก แผ่นดินไหวอัฟกานิสถานซ้ำ

กลายเป็นเหตุสุดระทึกหลัง เครื่องบินไฟไหม้ ขณะลงจอดในสนามบินประเทศหสหรัฐอเมริกา เคราะห์ดีไม่มีผู้เสียชีวิตจากเหตุนี้ เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน สำนักข่าว ABC รายงานว่า เกิดเหตุเครื่องบินสายการบิน เร้ด แอร์ ลุกไหม้ขณะลงจอดที่ท่าอากาศยานนานาชาติไมอามี ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกหามตัวส่งโรงพยาบาล 3 ราย ขณะเกิดเหตุนั้นมีผู้โดยสารและลูกเรือ 126 ราย

แผนกการบินไมอามี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุดังกล่าวว่า เครื่องบินเดินทางมาจาก กรุงซันโตโดมิงโก เมืองหลวงสาธารณรัฐโดมินิกัน ซึ่งขณะลงจอดอุปกรณ์ที่ใช้ในการลงจอดขัดข้องและหัก ไถลออกนอกรันเวย์ และทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเกิดเพลิงไหม้ขึ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้รีบดับเพลิงก่อนนำตัว ผู้โดยสารลงจากเครื่อง และนำผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย ส่งโรงพยาบาล เบื้องต้นทั้งสามได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ส่วยผู้โดยสารที่เหลือไม่ได้รับบาดเจ็บ

ใกล้เข้ามาอีก! สิงคโปร์ พบผู้ป่วย ฝีดาษลิง รายแรก

สิงคโปร์ พบผู้ป่วย ฝีดาษลิง รายแรกในประเทศและถือเป็นรายแรกในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะนี้เข้าการกักตัวแล้ว เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า ทางการสิงคโปร์พบผู้ป่วยฝีดาษลิง (Monkeypox) รายแรกในประเทศ โดยเป็นชายชาวอังกฤษวัย 42 ปี ที่ทำหน้าที่เป็นพนักงานของสายการบินอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกในพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เจ้าหน้าที่แพทย์ระบุว่า เบื้องต้นผู้ป่วยมีอาการทรงตัว และได้ถูกการแยกตัวผู้ป่วยแล้ว พร้อมสั่งกักตัวผู้ใกล้ชิดอีก 13 ราย ประกอบไปด้วยเพื่อนร่วมงาน ลูกเรือ และ สื่อมวลชน จากการตรวจสอบพบว่าผู้ป่วยรายนี้ได้เดินทางเข้าออกประเทศในช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ปัจจุบันมีผู้ป่วยฝีดาษลิงนอกเหนือทวีปแอฟริกากว่า 2,100 ราย ใน 42 ประเทศ นับจากการค้นพบครั้งแรกในช่วงเดือนพฤษภาคม

โดยทั่วไปแล้วผู้ป่วยโรงฝีดาษลิง จะแสดงอาการของโรคหลังติดเชื้อประมาณ 12 วัน อาการเบื้องต้นมีหลายอย่าง อาทิ มีไข้, หนาวสั่น, ปวดหัว, เจ็บคอ, บวม, ปวดหลัง, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ,ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลีย บางรายอาจพ่วงอาการง่วงซึม แต่เมื่อไข้ทุเลาลง อาจเกิดผื่นขึ้น มักจะเริ่มจากบนใบหน้าก่อน จากนั้นจะลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

ผื่นส่วนใหญ่ จะพบที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า อาจมีอาการระคายเคืองอย่างรุนแรง และมีการเปลี่ยนแปลงหลายขั้น ก่อนที่ผื่นจะกลายเป็นตุ่มหนอง ซึ่งในระยะสุดท้ายตุ่มหนอง จะเป็นสะเก็ดแล้วหลุดออกมา เหตุนี้เองโรคฝีดาษลิงอาจทำให้เกิดแผลเป็นตามมา โดยปกติแล้วอาการป่วย จะอยู่ในช่วงระยะเวลาประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ และสามารถหายเองได้

คาดว่าประเทศในกลุ่มดังกล่าวจะได้เริ่มฉีดวัคซีนในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ โดยทางองค์การอนามัยโลกตั้งเป้าว่าในช่วงสิ้นปี ประชาชนในกลุ่มประเทศดังกล่าวราวๆร้อยละ 20 จะได้รับวัคซีนต้านโควิด-19

โดยประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเกือบร้อยละ 70 หลังจากที่อาสาสมัครเกือบ 1,400 คน ฉีดวัคซีนโดสที่ 2 ห่างกับโดสแรกเป็นระยะเวลา 3 สัปดาห์ ทั้งนี้ทางโฆษกไม่ได้ระบุแน่ชัดว่าทำไมอาสาสมัครกลุ่มดังกล่าวถึงทิ้งระยะห่างในการฉีดวัคซีนมากกว่ากลุ่มทดลองอื่นๆ

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป